นามปากกา :

รางวัลที่ได้รับ :

  • ปี 2539 ส่งเรื่องสั้น “บุญคุณทุย” เข้าประกวดรางสัลสุภาว์ และได้รับรางวัลเป็น 1 ใน 10 คน
  • ปี 2540 เรื่องสั้น “ศิษย์ครูวลีวรรณ” ได้ประดับช่อการะเกด และเรื่องสั้น “หนองอ้อปลูกหน่อกล้วย” ได้รับรางวัลช่อการะเกดยอดเยื่ยมปี 2541
  • ปี 2544 เรื่องสั้น “ลานรักดาราไพร” ได้รับรางวัลสุภาว์ เทวกุลฯอีกครั้งหนึ่ง

ประวัติส่วนตัว :

เทศ จินนะ เกิดวันที่ 25 กันยายน 2482 บ้านวังปลากด หมู่ 4 ต.ป่าคาย อ.ตรอน (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น อ.ทองแสนขัน) จ.อุตรดิตถ์ จบชั้นประถม 4 จากสถาบันศาลาวัดวังปลากด ซึ่งมุงด้วตับหญ้าคา จบการศึกษาภาคบังคับ ปี 2492 เรียน 5 ปี วางมือจากอาชีพพรานป่า เลิกฆ่าสัตว์เด็ดขาด ด้วยการบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ 17 ปี ตามคำขอร้องของหลวงลุง เพื่อเป็นการไถ่บาปที่วัดในจังหวัดอุตรดิตถ์ ปี 2502 ย้ายไปจำพรรษาที่วัดธรรมจักรและวัดมหาธาตุวรวิหารตามลำดับ กระทั่งสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค

ปี 2502 กลับไปอุปสมบทที่บ้านเกิด จากนั้นไปจำพรรษาที่วัดพรหมจริยาวาส จังหวัดนครสวรรค์ โดยเรียนไปด้วยและสอบเทียบชั้น ม.6 ได้ นอกจากนี้ยังเป็นครูสอนให้กับพระภิกษุและสามเณรด้วย ที่วัดแห่งนี้ทำให้เขาได้อ่านหนังสือดีๆ ซึ่งมีในห้องสมุดหลายพันเล่ม ระหว่างปี 2502-2508 เขาตะลุยอ่านหนังสือทุกชนิด กระทั่งได้อ่านเรื่องสั้น “เขียดขาดคำ” ของลาว คำหอม ในนิตยสารชาวกรุงและอ่านคำบรรยายวิชาการประพันธ์ของนายตำรา ณ เมืองใต้ (เปลี้อง ณ นคร) ในวารสารวิทยาสารปลุกหัวใจของเขาให้อยากเขียนหนังสือทันที จึงเขียนนวนิยายขนาดสั้นชื่อ “คราบเลือดของชาวนา” แล้วให้เด็กวัดไปขายให้สำนักพิมพ์ในราคา 200 บาท เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน ตำรวจในยุครัฐบาลเผด็จการครองเมืองเข้าค้นกุฏิ เพื่อหาหลักฐานการกรุทำอันเป็นคอมมิวนิสต์โชคดีที่เขาไหวตัวทัน เผาวิทยาสารและเรื่องที่จะเขียนต่อไปทิ้งหมดด้วยความเสียดายเหตุการณ์ในครั้งนี้ ให้พระหลายรูปเกลียดชังและประณาม

ปี 2506 พระเทศ จินนะ เขียนนวนิยายเรื่อง “สมมุติสงฆ์” และ “บ้านรอกมาตรฐาน” ไปฝากไว้กับญาติที่บ้านเกิด อีกหลายสิบปีต่อมา เขานำมาขัดเกลาใหม่แล้วส่งไปตีพิมพ์ในนิตยสารแรงบุญแรงกรรมเมื่อปี2549 ป่วยเป็นวัณโรค อาเจียนออกมาเป็นเลือดสดๆ ยาพี เอ เอส ไม่สามารถสกัดได้ จึงฉีดยาสเตร็ปโตมัยซิน ฉีดแล้วหน้า ศรีษะเป็นเหน็บชา ไม่หายขาด แพทย์ให้ฉันข้าว 3 มื้อ ร่างกายจะได้แข็งแรง แต่ทำอย่างนั้นไม่ได้จึงสู้อดทนกับโรค เพื่ออ่านหนังสือสอบวิชาชุดครูตามคำแนะนำของพระครูอรุณ เมื่อสึกแล้วจะได้มีงานรองรับ จนสามารถสอบได้หลังจากลาสิขาบทเมื่อปี 2510 เขาสอบเข้าเป็นครูที่โรงเรียนทุ่งกระเชาะ จังหวัดตากช่วงที่เป็นครู เขียนเรื่องสั้น “พรามแย้” ลงในหนังสือประชาบาลและสารสารวิทยาจารย์หลายเรื่องด้วยกัน ใช้นามปากกา เทพ อารยธรรม

หลังลาออกจากครู ได้บุกงานไร่ แต่ยังเขียนไม่หยุด งานไร่อยู่ตัว ต้นสัก ต้นสะเดามะม่วงโต แล้วมาเขียนหนังสืออย่างเต็มที่ ได้ผลงาน “อ้ายสินเปลี่ยนสี หลีกหนีโลกิยะ” พิมพ์ที่สำนักพิมพ์ฉลองบุญ ปี 2521 นิตยสารฟ้าเมืองไทยประกาศรับเรื่องสั้นของสักเขียนหน้าใหม่ เขาจึงเขียนเรื่องเกี่ยวกับป่าส่งไปตีพิมพ์จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักอ่านฟ้าเมืองไทย ปี 2533 เขาส่งเรื่องสั้น “ล่าช้างพลาย” ไปที่นิตยสารช่อการะเกด ได้ตีพิมพ์ในช่อการะเกดชุดคนพันธุ์ใหม่