โลกการอ่านของ พิไลมาศ ค้ำชู : นักเขียนนิยายวัยรุ่นสุดฮอต ‘แสตมป์เบอรี่’

โลกการอ่านของ พิไลมาศ ค้ำชู

เฟซบุ๊กของ Stampberry มี 170,194 คนถูกใจ และ 6,643 คนกำลังพูดถึงสิ่งนี้ นี่คือดัชนีที่ชี้ให้เห็นว่า เธอได้รับความนิยมจากนักอ่านคนรุ่นใหม่วัยรุ่นหนุ่มสาวมากแค่ไหน นวนิยายของเธอที่เขียนออกวางจำหน่ายถึง 38 เล่ม ก็การันตีถึงความฮอตฮิตในโลกหนังสือของเธอได้อย่างไม่ต้องมีอะไรมาพิสูจน์...

คุณพิไลมาศ ค้ำชู หรือ แสตมป์ ซึ่งบรรดานักอ่านวัยรุ่นรู้จักกันในนาม ‘แสตมป์เบอรี่’ เธอมีอายุ 20 ปลายๆ จบปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เอกภาษาไทย นามปากกา ‘แสตมป์เบอรี่’ เธอบอกว่า สำคัญมาก เพราะเป็นชื่อที่บ่งบอกตัวตนของเธอได้เป็นอย่างดี โดยตั้งมาจากการที่เธอมีชื่อเล่นว่า แสตมป์ และชอบสะสมของที่เป็นสตรอเบอรี่ เพราะเห็นว่าน่ารักมากๆ เลยเอามารวมกับชื่อตัวเองเป็นแสตมป์เบอรี่ เพื่อตามล่าความฝัน และตั้งใจเขียนนิยายให้ทุกๆ คนอ่าน เธอเริ่มจากลงนิยายเรื่อง ’ยัยเวอร์จิ้นปิ๊งรักนักเพลย์บอย’ ไว้ในบอร์ดแบ่งกันอ่าน และสำนักพิมพ์แจ่มใสเห็นแววดึงมาเป็นนักเขียนอย่างจัง

แน่นอน เธอชอบอ่านหนังสือแล้ว แสตมป์เล่าถึงที่มาที่ไปของการเขียนหนังสือ
“เริ่มจากเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมากๆ ค่ะ อ่านได้หลากหลายแนว เมื่อยิ่งอ่านมากๆ เข้ามันก็เริ่มรู้สึกอยากเขียนบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะจะเขียนแนวไหนยังไงดี จนกระทั่งได้มาอ่านนิยายแปลของแจ่มใส เรื่อง ‘หนุ่มฮอตสาวเฮี้ยวรักเปรี้ยวอมหวาน’ แล้วรู้สึกว่าชอบมาก แนวแบบนี้น่าจะเหมาะกับตัวเราที่สุด ก็เลยลองเขียนดูบ้าง แต่ปรับให้เป็นนิยายรักกุ๊กกิ๊กแบบวัยรุ่นไทยแทนค่ะ”

สำหรับคนที่เขียนหนังสือ ส่วนมากจะมีพื้นฐานและแรงบันดาลใจมาจากการอ่านหนังสือเยอะๆ แสตมป์ได้เล่าถึงนิสัยรักการอ่านของเธอว่า
“เพราะตอนเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่จะปลูกฝังให้อ่านหนังสือเยอะมาก เวลานั้นจะชอบมีหนังสือพวกสารานุกรม การ์ตูนดิสนีย์คอมิค แล้วก็บ็อกเซ็ตเกี่ยวกับการ์ตูนแนววิทยาศาสตร์มาเสนอขายตามบ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็จะซื้อเก็บไว้ให้ เราก็ชอบอ่านเพราะมันอ่านง่าย มีภาพประกอบสนุกๆ จากนั้นก็เริ่มเลื่อนขั้นมาเป็นวรรณกรรมเยาวชน และนิยายตามลำดับ จนกลายเป็นติดการอ่านหนังสือ เพราะเมื่อก่อนโลกอินเตอร์เน็ตยังไม่บูม พอมีเวลาว่างก็จะอ่านหนังสืออย่างเดียวเลยค่ะ “คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังมากๆ เพราะท่านเองก็ชอบอ่านหนังสือเช่นกัน ดังนั้นก็เลยจะสนับสนุนให้รักการอ่าน เวลาขอเงินซื้อหนังสือก็จะให้ตลอด ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ตาม ยิ่งช่วงที่มีสัปดาห์หนังสือนี่สนุกเลยค่ะ ท่านจะให้เงินมาก้อนหนึ่งแล้วให้ช็อปหนังสือได้ตามใจชอบเลยค่ะ มีความสุขมากๆ

การค้นพบว่า ตัวเองชอบหนังสือและรักการอ่านหนังสือในแนวที่ตัวเองชอบ (นิยายรักวัยรุ่นรุ่นใหม่) เพราะอ่านแล้วรู้สึกว่าสนุกเหลือเกิน หัวใจพองโต
“อารมณ์ว่าอยากจิกหมอนอะไรประมาณนั้นเลย พออ่านจบรีบหาเว็บไซต์ของทางสำนักพิมพ์ แล้วเข้าไปเสิร์ชหาดูว่ามีเรื่องอื่นๆ อีกไหม จากนั้นก็หลุดเข้าไปสู่โลกแห่งนิยายรักวัยรุ่นทันทีจนเลยค่ะ”

สำหรับแรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือเยอะๆ นำไปสู่การค้นพบอะไรใหม่ๆ ในชีวิต หรือค้นพบทางเดินที่ตัวเองต้องการได้
“ค้นพบว่าตัวเราเองก็มีพรสวรรค์ด้านการเขียนเหมือนกันนะ เป็นสิ่งที่เราชอบมากๆ และเป็นตัวของเราที่สุด ตั้งแต่ที่ได้เริ่มเขียนนิยายมาก็รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากค่ะ ดังนั้นก็เลยเป็นเหตุผลให้เราเขียนนิยายอย่างเดียวมาตลอด” วิธีจะเขียนนิยายให้ขายดีหรือให้โดนใจคนอ่าน เคล็ดลับของคือยึดตัวเองเป็นหลัก ก่อนอื่นตัวคนเขียนต้องรู้สึกสนุกกับมันก่อน ส่วนการเป็นนักเขียนขายดีขวัญใจนักอ่านวัยรุ่นของเธอ แสตมป์วิเคราะห์ตัวเองว่า เพราะสไตล์เขียนของเธอที่ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน สำนวนที่ใช้ค่อนข้างจะออกแนวจิกกัด เปรียบเทียบ ทำให้คนอ่านเห็นภาพชัดเจน และแอบมีมุกตลกแทรกตลอดเวลา ดดยเฉพาะการเน้นฉากรักกุ๊กกิ๊กทะลึ่งทะเล้น และพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างพลิกไปพลิกมา ทำให้เดาตอนจบเรื่องไม่ค่อยได้ เลยเป็นจุดสนใจที่อาจจะส่งผลให้นักอ่านหลายๆ คนยังคงติดตามงานอยู่เรื่อยๆ ที่สำคัญคือจะพยายามผลักดันตัวเองให้เขียนนิยายออกมาให้ได้ปีละ 3-4 เรื่อง เพื่อที่จะได้มีการติดต่อกับนักอ่านอยู่ตลอดเวลาด้วย

“เรื่องรสนิยมของนักอ่านวัยรุ่นพูดยากค่ะ เพราะแต่ละคนก็มีสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน แต่สังเกตจากการที่บูธแจ่มใส เวลาไปออกงานตามที่ต่างๆ จะมีนักอ่านมารอต่อคิวซื้อเป็นจำนวนมาก ก็พอจะบ่งบอกได้ในระดับหนึ่งว่า ยุคนี้เป็นยุคของนิยายรักวัยรุ่นอย่างแท้จริง บางส่วนก็อาจจะอ่านเพราะชอบด้วยตนเอง บางคนก็ถูกเพื่อนยุให้ลองอ่าน และพอได้อ่านจริงๆ แล้วก็ชอบ จึงกลายเป็น เทรนด์ฮิตของเด็กวัยรุ่นในยุคนี้ไปค่ะ”

วัฒนธรรมการอ่านในเมืองไทย แสตมป์มองว่า ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก สังเกตจากจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เวลามีงานสัปดาห์หนังสือ
“รวมทั้งยอดขายนิยายของเราเองที่ยังกระแสดีไม่มีตก ทำให้รู้ว่าเด็กไทยก็ยังคงชอบอ่านหนังสือกันนะ รวมทั้งการที่มีสำนักพิมพ์ใหม่ๆ ถือกำเนิดขึ้นมากมาย ทำให้วงการหนังสือคึกคัก ส่วนการรณรงค์ คิดว่าต้องปลูกฝังเริ่มต้นจากครอบครัวก่อนค่ะ ถ้าพ่อกับแม่สนับสนุนหนังสือให้ลูกอ่าน หรือมีการอ่านร่วมกันในครอบครัว นำเนื้อหามาแชร์กัน ก็น่าจะส่งเสริมให้เยาวชนหันมารักการอ่านมากขึ้น”

เมื่อถามถึงงานบุ๊กแฟร์ของเมืองไทยในแต่ละปี ที่มีด้วยกัน 3 งานใหญ่ในกรุงเทพฯ คือ 1.งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ 2.งานหนังสือเด็กและครอบครัวหรือเทศกาลหนังสือครอบครัวนักอ่าน และ 3.งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ในฐานะของคนรุ่นใหม่มองบุ๊กแฟร์ทั้ง 3 งานที่จัดขึ้นว่าเป็นอย่างไร มีข้อดีหรือควรปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนใดบ้างหรือไม่
“ดีมากๆ เลยค่ะ เพราะเป็นงานที่รวมหนังสือทุกชนิดทุกประเภทที่ต้องการไว้ได้เกือบครบหมดทุกแนว และสามารถหาซื้อได้ง่ายในราคาไม่แพง รวมทั้งมีกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ ดึงดูดให้มีผู้มาร่วมเข้าชมเป็นจำนวนมาก ส่วนข้อเสียก็อาจจะเป็นความลำบากในการหาที่จอดรถ รวมถึงสถานที่บางทีไม่สามารถรองรับนักอ่านที่มารวมตัวกันจำนวนมากได้เท่าทีควร และด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้เสี่ยงต่อเกิดการสูญหายของทรัพย์สินได้ง่ายค่ะ”

แสตมป์ยังแสดงความคิดเห็นถึง กรุงเทพฯ เป็นเมืองหนังสือโลก ในสายตาของเธอว่า อยากให้ทางรัฐบาลและสื่อต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการโปรโมทด้านนี้ให้มากขึ้น
“อาจมีการทำละคร ทำโฆษณา จัดงานแบบยิ่งใหญ่อลังการ หรือออกแคมเปญต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยรู้ว่าปีนี้กรุงเทพฯ เป็นเมืองหนังสือโลกค่ะ เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยติดตามข่าวสารด้านนี้กันเท่าไหร่ สังเกตได้ว่าข่าวการเมืองและข่าวบันเทิงจะกลบข่าวในส่วนนี้ไป หากให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากขึ้นกว่านี้ ก็คงจะดีไม่น้อยค่ะ”

เทรนดี้หรือการวิ่งตามเทรนด์ของคนรุ่นใหม่กับกระแสอีบุ๊ก ซึ่งกำลังขยายตัวในหมู่คนรุ่นใหม่ที่หันมาอ่านหนังสือดิจิตอลมากขึ้นกว่าอ่านหนังสือแบบกระดาษ เธอบอกว่า มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
“ข้อดีคือมันสะดวกขึ้น พกไปไหนมาไหนง่าย สามารถติดตัวเราไปได้ตลอดไม่เกะกะ แถมราคาก็ยังถูกลงด้วย รวมทั้งไม่สิ้นเปลืองกระดาษอีกต่างหาก แต่ข้อเสียคือความคลาสสิกมันจะหายไป เพราะหนังสือบางเล่มมีการขายเป็นบ็อกเซ็ตสวยงาม บางคนก็เลยจะชอบสะสมหนังสือที่เป็นรูปเล่มมากกว่า เวลานำมาจัดเรียงกันในตู้หนังสือก็จะดูน่ามอง อีกอย่างคือหนังสือบางจำพวกเหมาะสำหรับเด็ก ก็คงไม่สะดวกนักที่จะให้เด็กอายุน้อยๆ พกแท็บเล็ตไปไหนมาไหนน่ะคะ ส่วนตัวเองก็ยังคงชอบการอ่านนิยายเป็นเล่มมากกว่า รู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ

การวางอนาคตของตัวเองในฐานะนักเขียน แสตมป์บอกว่า ยังไม่แน่ใจเลยว่า จะเปลี่ยนแนวไหม เพราะใจจริงตัวเองยังรักการเขียนแนวนี้อยู่มาก และไม่เคยมีความคิดจะเปลี่ยนแนวไปเขียนแบบอื่นเลย แต่ว่าด้วยช่วงอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจจะทำให้การเขียนต้องปรับขึ้นไปตามอายุด้วย
“ตอนนี้ยังไม่มีแพลนอะไรเลยค่ะ เพราะรู้ดีว่ายึดอาชีพเขียนนิยายเป็นหลักมาตั้งแต่แรกแล้ว ทำให้เราแทบไม่มีทักษะทางด้านอื่นเลย จะไปเป็นพนักงานกินเงินเดือนก็ไม่ใช่สไตล์ จะให้ไปขายของเราก็พูดไม่เก่ง ถนัดเขียนมากกว่า ก็เลยคิดว่าจะเขียนนิยายไปเรื่อยๆ ค่ะเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดแล้ว”

ปิดท้าย เธอช่วยแนะนำทริคการอ่านหรือกลเม็ดเด็ดในการอ่านหนังสือให้เก่งตามแบบของเธอ
“คงแนะนำว่าอยากให้เลือกอ่านตามแนวที่ตัวเองชอบก่อนค่ะ อย่าเพิ่งเลือกเรื่องที่หนักเกินไป แล้วค่อยๆ เปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆ เน้นอ่านมากๆ เราก็จะรู้เองค่ะว่าเราชอบอ่านแนวไหน ยังไง ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากแนวไหน แอบขอแนะนำให้อ่านนิยายของแสตมป์เบอรี่ ดูนะคะ เพราะอ่านง่าย เข้าใจง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัยค่ะ”

38 ผลงานนิยายรักวัยรุ่นแสตมป์เบอรี่
1.ยัยเวอร์จิ้นปิ๊งรักนักเพลย์บอย
2. รักสุดเซอร์ไพรส์ของยัยขี้โม้
3.ยัยตัวแสบหวานใจนายซูเปอร์สตาร์
4.ลุ้นรักโปรเจ็กต์ลับฉบับยัยจอมจุ้น
5.Idol boy หล่อ ซ่าส์ ใส กิ๊กหัวใจยัยตัวยุ่ง
6.กามเทพแสนกลรักอลวนหัวใจใสง(เรื่องนี้แต่งคู่กับปลาน้อย)
7.จับนายวายร้ายมารับใช้ยัยคุณหนู
8.เกมคิวปิดสะกิดใจหนุ่มหล่อร้ายกับยัยเจ้าเล่ห์
9.Love land หัวใจกิ๊กกั๊กคู่รักอลเวง(ซีเดย์น่ารักสุดยอด)
10.Love Plan แผนวุ่นชุลมุนรัก(เรื่องนี้ก็แต่งคู่กับคีตภา)
11.Love Uncensored กำกับรักลุ้นหัวใจยัยสุดฮอต
12.ZE-GUYS แก๊งหล่อวายร้ายกับยัยจำเลย(น่า)รัก
13.Love liar รีเทิร์นรักหลอกกั๊กหัวใจยัยว้าวุ่น
14.Love Tornado หนุ่มหล่อพายุร้ายถล่มหัวใจยัยสติแตก
15. Zixga แก๊งป่วนก๊วนซ่าส์.....ภารกิจแสบ
16.Psycho & The Zist จังหวะรักร้ายหวานใจเจ้าเสน่ห์
17.Love Innocent พลิกรักล็อกหัวใจนายวายร้ายจอมโหด
18.Love Knock Down!!! วิกฤตรักร้อนซ่อนหัวใจยัยเพลย์เกิร์ล
19.Love Survivor Game วางแผนลับไล่จับหัวใจนายแบดกายส์
20.[7's] วางแผนร้ายปั้นหัวใจยัยหน้าใสสุดจี๊ด
21.[7's] Pretty Bad Girl บทเรียนรักกั๊กหัวใจยัยวายร้ายฝึกหัด
22. Bad Boy Brothers แหกกฎรักทดสอบใจลูกชายมาเฟีย
23. Superstar’s Girlfriend เลิกโสดทั้งทีขอมีแฟนเป็นหนุ่มฮอต
24. [7's] So What!!! สวย แสบ ซ่าส์ มีปัญหามั้ยคะสุดหล่อ
25.ลุ้นรักโปรเจ็กต์ลับฉบับยัยจอมจุ้น (ปกใหม่)
26. Box Set หนังสือชุด Psycho
27.10 Days with Handsome Guy จะบ้าตาย... ห้ามรักนายสุดหล่อ!!!
28.Beloved Libra เนื้อคู่จ๋า... มาคบกันเถอะ
29.[7's] Idol's Party น่ารักอย่างนี้... บอกทีว่าเลิฟ~เลิฟ
30.Love land หัวใจกิ๊กกั๊กคู่รักอลเวง
31. Love Out Loud รักต้องลับฉบับคำสาปสุดเพี้ยน
32.Bad Boy Backpack แหกด่านรักไขรหัสหัวใจยัยคุณหนู
33. Bad Boy Final Trip รหัสสุดท้ายไขหัวใจคุณชายมาเฟีย
34. [7's] Beauty and Crazy Prince สวยเริดเชิดใส่เจ้าชายเอาแต่ใจ
35. Silly Stuff คลิปลับจับหัวใจไอดอลสุดฮอต
36. [7's] The Kiss Show สุดหล่อจ๋า อยากสวยช่วยฉันที!
37. [7's] X-sensation สูตรรักสุดร้ายปราบหัวใจนายเพลย์บอย (วางแผงงานหนังสือเด็กเดือนกรกฎาคม 2557 พร้อม boxset)
38. [7's] Extra Edition ปฏิบัติการลับฉบับคู่รักสุดฮอต (วางแผงสิงหาคม 2557)

 

โลกการอ่านของ พิไลมาศ ค้ำชู

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ