ฉัตร – ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร : การเรียนรู้ไม่มีวันจบ ฉัตร – ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร

ฉัตร – ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร

"ชีวิตประจำวันของคนหนึ่งอาจจะไม่รู้หรือเคยพเห็นมาก่อน แต่หนังสือสามารถทำได้ และตอบข้อข้องใจของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี" ไม่มีวันจบแม้กระทั่งบางคนแก่ตัวลงแล้ว ก็ยังขวนขวายที่จะเรียนอยู่ ซึ่งเรื่องของการเรียนฉัตรคิดว่า มันไม่ได้เรียนรู้หรือเรียนจบกันอยู่ในแค่หนังสือหรือหน้ากระดาษ แต่ยังมีความรู้ข้างนอกอีกมากมายรออยู่ ไม่ว่าจะเป็นนอกบ้านนอกประเทศ หรือภายนอกโลกก็ตามที่เป็นประสบการณ์ให้ตัวของเราเองได้ออกไปค้นหามัน

รักการเรียนขนาดนี้ แล้วรักในการอ่านหนังสือด้วยหรือเปล่า
จริง ๆ แล้วฉัตรเป็นคนชอบอ่านหนังสือประเภทนิยายนะ เพราะเวลาเราอ่าน มันเหมือนตัวเองได้หลุดเข้าไปสู่โลกแห่งจินตนาการที่เขาเขียน แถมบางทีรู้สึกเหมือนอารมณ์ของตัวละครตัวนั้นด้วยซ้ำ เหมือนเราเป็นตัวละครที่เขาเขียนจริง ๆ เลยทำให้ฉัตรมองตัวเองว่า เป็นคนหนึ่ง ที่เข้าถึงอารมณ์คนอื่นได้ง่ายมาก (ยิ้ม) นอกจากหนังสือนิยาย ก็ยังมีหนังสือการ์ตูนอีกนะคะที่ฉัตรชอบ ซึ่งอ่านเยอะมากในแต่ละครั้งจนเป็นชีวิตประจำวันไปแล้ว (หัวเราะ) โดยบางทีเวลาเราเหนื่อยเครียดจากงานมา การอ่านการ์ตูนมีส่วนช่วยเยอะมากในช่วงเวลาการผ่อนคลายของฉัตร ยังส่งผลให้การทำงานราบรื่นขึ้นอีกด้วย

แล้วการอ่านหนังสือมีส่วนช่วยในเรื่องของการเรียน การทำงาน และการแสดงของฉัตรอย่างไร
การอ่านหนังสือช่วยได้มากเลยค่ะ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ฉัตรเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกาย เลยพานให้ไม่ชอบวิชาพละไปด้วย แต่ฉัตรเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือการ์ตูน อ่านได้ทุกประเภท ทุกแนว ไม่เว้นแม้แต่การ์ตูนที่เกี่ยวข้องกับกีฬา แล้วเคยเอาไปใช้ในการเรียนและการสอบด้วยค่ะ เป็นการสอบวิชาบาสเก็ตบอล ซึ่งฉัตรอ่านแสลมดังก์นะคะ (หัวเราะ) ฟังดูอาจจะตลก แต่มันช่วยได้มาก จริง ๆ โดยคนอื่นอาจคิดว่าอ่านการ์ตูนแล้วได้อะไร ไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ แต่สำหรับฉัตรเอง การ์ตูนช่วยในด้านของจิตใจและอารมณ์ความรู้สึกมาก ๆ เลย ส่วนเรื่องการทำงาน การอ่านหนังสือก็ช่วยได่ค่ะ เพราะบางทีฉัตรไม่ได้ดูโทรทัศน์มาตั้งแต่ต้น แต่อาศัยการอ่านจากนิยายต้นฉบับ หรือตัวบททีได้รับมา ทำให้เราเข้าใจในบทบาทและเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครได้ลึกมากขึ้น

หนังสือเล่มไหนที่ฉัตรชอบอ่านและโปรดปรานเป็นพิเศษ
ฉัตรชอบอ่านหนังสือนิยายของ “ควียอนี” ค่ะ เป็นนักเขียนชาวเกาหลี ซึ่งอ่านมาก่อนหน้านี้นานมากแล้ว แต่ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยได้อ่าน เพราะทำงานทุกวัน รวมถึงต้องใช้เวลาอ่านและทำความเข้าใจพอสมควร ซึ่งฉัตรเลือกอ่านของนักเขียนคนนี้ ก็เพราะเป็นนิยายเกาหลีแนวรักวัยรุ่นที่รู้สึสนุก ประทับใจ อ่านแล้ววางไม่ลง แถมพอเรื่องถึงจุดเศร้า เรายังร้องไห้ตามเหตุการณ์ในเรื่องอีก คล้ายกับมีส่วนร่วมในทุก ๆ เหตุการณ์ที่เขาทำ โดยนักเขียนสามารถดึงและนำเราให้ติดตามต่อไปได้เรื่อย ๆ ว่าตกลงแล้วเหตุการณ์จะลงเอยอย่างไร

มีหนังสือเล่มไหนบ้างที่ฉัตรอ่านแล้วทำให้ความคิดหรือการมองโลกของฉัตรเปลี่ยนไป
จะมีของคุณ “นิ้วกลม” ค่ะที่อ่านแล้วทำให้มุมมองความคิดของเรากว้างขึ้น แต่ฉัตรไม่ได้เป็นคนซื้อมาหรอกนะคะ น้องชายจะชอบซื้อและอ่านหนังสือแนวนี้มากกว่า โดยส่วนใหญ่แนวที่ฉัตรอ่านจะออกแนวผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดจากการทำงานหนัก ๆ ที่ทำมากกว่า แต่พอน้องเริ่มซื้อบ่อย เริ่มอยากรู้แหละว่าเนื้อหาภายในเป็นอย่างไร เลยหยิบของน้องมาอ่าน พออ่านไปสักพัก รู้สึกติดใจและเปิดอ่านต่อเรื่อยๆ เพราะมีแง่คิดดี ๆ ใหม่ ๆ อยู่ภายในเล่มเยอะมาก รวมถึงยังค้นพบเกี่ยวกับการมองชีวิตด้วยว่า คนหนึ่งคนมีความคิดหลายด้านมาก อย่าจดจ่อแค่มุมมองของตัวเอง ลองสังเกตมุมมมองหรือความคิดใหม่ ๆ ของคนอื่นดูบ้าง

ฉัตรคิดว่าการอ่านหนังสือเพียง 1 เล่ม สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนคนหนึ่งได้หรือไม่
ฉัตรว่าเปลี่ยนได้นะ บางทีมันเปลี่ยนมุมมอง ความคิด หรือจิตใจคนเราไปเลยด้วยซ้ำ อย่างถ้าเราอ่านหนงสือแนวให้กำลังใจ หรือแนวคิดเชิงบวกบ่อย ๆ แง่คิดคนนั้นอาจจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น คิดดีกับคนอื่น ทำดีกับส่วนรวม และพูดดีกับคนรอบข้าง ฉัตรเองก็เป็นนะคะ เมื่อเวลาเราเคลียดหรือต้องการหาทางออก ก็จะหยิบหนังสือประเภทนี้ขึ้นมาอ่าน เพื่อเป็นการเสริมกำลังใจให้เราสู้และลุยงานต่อไปได้ แต่ถ้าเราไปอ่านหนังสือประเภทหม่นเศร้า กำลังใจเหือดแห้ง โลกนี้มีแต่ความโหดร้าย แง่คิดอาจกลายเป็นกลับตาลปัตรกัน แทนที่จะอารมณ์ดี กลับมีแต่อารมณ์หดหู่ หาความสดใสไม่เจอในวันนั้นก็ได้

การอ่านสำคัญกับฉัตร รวมถึงชีวิตของคนเราขนาดไหน
สำคัญตรงความรู้ใหม่ ๆ ที่เราได้เปิดเจอและค้นพบมัน เพราะสำหรับฉัตรแล้ว หนังสือเปรียบเสมือนโลกโลกหนึ่งที่คนเราไปเปิดออกมาเพื่อตอบจุดประสงค์อะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความสงสัย ความบันเทิง หรือความอยากรู้อยากเห็นของคนเรา ซึ่งบางทีชีวิตประจำวันของคนคนหนึ่งอาจจะไม่รู้หรือเคยพบเห็นมาก่อน แต่หนังสือสามารถทำได้ และตอบข้อข้องใจกับมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

 

ที่มา : all magazine

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ