ต้องคิดอย่างไรให้ใจกล้า...ถ้าจะก้าวเข้ามาเปิดร้านหนังสือ : ร้านขายหนังสือ ธุรกิจในฝันของคนรุ่นใหม่

ต้องคิดอย่างไรให้ใจกล้า...ถ้าจะก้าวเข้ามาเปิดร้านหนังสือ

ร้านหนังสือ นับเป็นธุรกิจในฝันของใครหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่ภาพในจินตนาการก็คือ การได้เป็นเจ้าของร้านหนังสือที่ดูอบอุ่น อบอวลไปด้วยสังคมของหนอนหนังสือ วันๆ ได้เพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือที่ตัวเองชื่นชอบ เก็บกำไรวันละนิด วันละหน่อย ต่อเติมเพิ่มโน่นนี่นั่นเพื่อให้ร้านหนังสือในฝันเบ่งบานและเติบโต

แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่า ร้านขายหนังสือนี่แหละ คือ ธุรกิจปราบเซียน!!! เพราะเอาเข้าจริงแล้ว การทำร้านขายหนังสือก็คือการทำร้านขายปลีกประเภทหนึ่ง ที่วันๆ คุณต้องบริหารจัดการกับปริมาณสินค้าจำนวนมาก เช้ามาก็ต้องรีบเปิดร้านเพื่อขายหนังสือพิมพ์ ไหนจะต้องข่มอารมณ์กับบรรดานักอ่านฟรี ไหนจะต้องคอยระวังพวกลักขโมยหนังสือ (หรือแม้แต่คอยระแวงพนักงานในร้าน) ที่สำคัญกำไรต่อหน่วยไม่ได้หอมหวานอย่างที่คิด เพราะเฉลี่ยแล้วกำไรต่อเล่มอยู่ที่ 15-20% เท่านั้น คิดดูเถิดว่า หากคุณจะต้องนำกำไรสุทธิมาหักค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน และค่าอื่นๆ อีกจิปาถะ คุณจะรับมันไหวหรือไม่

พูดแค่นี้อย่าเพิ่งถอดใจไปค่ะ เพราะแม้จะเป็นธุรกิจที่ไม่หมู แต่ก็ต้องยอมรับว่า หากรู้จักกลเม็ดเด็ดพรายในการทำร้านหนังสือให้โดนใจนักอ่านแล้วล่ะก็ นับว่าร้านขายหนังสือ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความมั่นคงในระยะยาวไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก่อนอื่นคุณผู้อ่านต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ปัจจัยเกื้อหนุนที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจในการทำธุรกิจร้านขายหนังสือนั้น มีดังต่อไปนี้

1. มีใจรักงานขายอย่างแท้จริง ดัง ที่กล่าวไปแล้วว่า ธุรกิจร้านหนังสือเป็นธุรกิจร้านค้าปลีก ซึ่งนับได้ว่าเป็นงานที่ทั้งหนักทั้งเหนื่อย กำรี้กำไรก็ไม่ได้มากมาย ฉะนั้นหากคุณคิดแค่ว่าอยากเปิดร้านหนังสือเพราะเป็นคนรักหนังสือ ชอบอ่านหนังสือ แต่ไม่ถนัดงานขายเอาเสียเลย คุณอย่าหลงทางเลยดีกว่า แต่ถ้ามั่นใจว่าหนังสือเราก็รัก ขายเราก็ทำได้ บริการเราก็ไม่เกี่ยง ธุรกิจนี้ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับคุณ

2. ทำเลทอง พื้นที่สำหรับการเปิดร้านขายหนังสือนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีลูกค้า เป้าหมายเดินผ่านไปมาเป็นจำนวนมากพอ ยิ่งถ้ามีที่จอดรถบริการด้วยก็จะยิ่งดีมากๆ ซึ่งจากสถิติแล้วพบว่า ในจำนวนคนที่เดินผ่านหน้าร้าน 100 คน จะมีเพียง 4 คนเท่านั้นที่จะเดินเข้ามาซื้อหนังสือ (ไม่นับคนที่เข้ามาอ่านฟรี) ซึ่งอัตราการซื้อโดยเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 120 บาท ดังนั้นถ้าหากทำเลที่คุณเลือกมีปริมาณคนเดินผ่านไปผ่านมาไม่ถึงหลักหลายพัน คนคุณเสี่ยงแน่ๆ ด้วยเหตุผลนี้จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ประกอบการร้านหนังสือ เลือกที่จะเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้ามากกว่าที่จะเปิดร้านสแตนอโลนด้านนอก

3. เงินลงทุน สำหรับการลงทุนเปิดร้านหนังสือนั้น ตอบไม่ได้แน่นอนว่าจะใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ทำเล คอนเซ็ปต์ของร้าน ฯลฯ ซึ่งหากคุณเริ่มต้นเป็นร้านขายหนังสือแผงเล็กๆ ที่ยึดหัวหาดตามหน้ามินิมาร์ท หน้ามหาวิทยาลัย ในตลาด ป้ายรถเมล์ จุดต่อรถต่อเรือ ฯลฯ ก็อาจจะใช้เงินลงทุนแค่หลักหมื่น เพราะไม่ต้องเสียค่าตกแต่งร้านมากมายนัก แต่หากเป็นร้านขนาดใหญ่ขึ้นมา เช่น อาจจะมีมุมเล็กๆ อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือทางขึ้นลงบันไดเลื่อน การลงทุนก็น่าจะแตะอยู่ในหลักแสน และหากคุณตั้งใจจะทำให้เป็น ช็อป ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือเกือบทุกประเภท ก็คงว่ากันเป็นหลักล้าน เพราะเฉพาะค่าชั้นวางหนังสือก็ตกประมาณ 6,000-10,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนค่ามัดจำหนังสือและค่าใช้จ่ายที่อาจจะต้องซื้อหนังสือเป็นเงินสดก็ตก ประมาณ 10,000-20,000 บาทต่อตารางเมตร

4. กำหนดคอนเซ็ปต์ของร้าน ถ้า คุณอยากเปิดร้านขายหนังสือแบบไม่ต้องวิ่งตามรูปแบบของใคร อาจจะเลือกฉีกแนวมาทำร้านหนังสือในแบบที่คุณถนัดและมองเห็นโอกาสก็ได้ เช่น • เลือก ขายหนังสือเฉพาะทาง เช่น ขายเฉพาะหนังสือการ์ตูน หนังสือมือสอง หนังสือประกอบการเรียน หนังสือท่องเที่ยว หนังสือวรรณกรรม ฯลฯ • จัด ส่วนผสมของสินค้าให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น เช่น นอกจากขายหนังสือแล้ว ยังมีสินค้าประเภทอื่นด้วย อาทิ เครื่องเขียน เทป ซีดี กาแฟ เบเกอรี่ ฯลฯ (ตัวอย่างที่เห็นง่ายๆ คือร้าน B2S) • สร้างเสน่ห์หรือสร้างบรรยากาศให้กับร้าน เช่น มีมุมกาแฟ มุมนั่งอ่าน มุมอินเทอร์เน็ต ฯลฯ

เมื่อตกลงปลงใจได้แล้วว่า คุณพร้อมจะลุยกับธุรกิจร้านขายหนังสือแน่ๆ ก็สามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้เลยค่ะ

ติดต่อเอเย่นต์ หรือสายส่ง สำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นติดต่อกับเอเย่นต์ได้อย่างไร มีวิธีการง่ายๆ คือ • สอบถาม จากร้านค้า แผงหนังสือ ในเขตเดียวกันกับทำเลที่คุณเลือกว่า ร้านเขารับหนังสือมาจากเอเย่นต์ไหน (เทคนิคในการถามอย่าไปบอกเขาว่าเราจะมาเปิดร้านบริเวณนี้ แต่ให้บอกว่าจะเปิดที่มันไกลๆ หน่อยเพียงแต่เข้ามาถามเป็นความรู้เท่านั้น) ถ้าเกิดกรณีที่ไม่ได้รับคำตอบจริงๆ ให้ถามว่าหนังสือพิมพ์ช่วงบ่ายจะมากี่โมง จากนั้นก็ให้ดักรอบริเวณนั้น

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ